การเลือกตำแหน่งที่ตั้งศาล
เหตุและผล ที่ใช้ประกอบการพิจารณา เลือกที่ตั้งศาลบูชาให้มีพลัง
การเลือกตำแหน่งที่ตั้งของศาลบูชาต่างๆ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้รู้ แต่ละท่าน ที่มีวิธีคิดแตกต่างกันไป บางท่านใช้หลักวิชา ตามตำราหรือครู อาจารย์ ที่สอนมา เช่นในตำราแบบไทย อินเดียโบราณที่แบ่งที่ดินออกเป็นเก้าช่อง เก้าส่วน แต่ละส่วนก็เหมาะที่จะใช้งานต่างกันไป หรือมีข้อห้ามที่ต่างกัน บางท่านก็ใช้หลักวิชาภูมิโหราศาสตร์ วิชาฮวงจุ้ยที่อาจารย์แต่ละท่านมีความคิดเห็นแตกต่างกันไปได้หลากหลายมาก ท่านที่มีความสามารถในเรื่องเตโชวิสัชนาญาณ ก็ใช้วิธี รู้พลังต่างๆที่มีอยู่ในสถานที่นั้นๆ ท่านที่รู้เรื่องธาตุต่างๆ เช่นดิน น้ำ ลม ไฟ ทองไม้ ก็พิจารณา ความสมดุลย์ของธาตุต่างๆ ณ สถานที่นั้นๆ ว่า สิ่งไดขาดหายไป หรือที่เจ้าของ เจ้าเรือนพร่องไป หรือการเพิ่มธาตุใดที่จะส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น บางท่านก็ตั้งศาลที่ทางสามแพร่ง เพื่อแก้จุดที่เป็นปัญหา การเลือกที่ตั้งหรือทิศทางตามตำราที่ตายตัว อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไปเพราะว่าปัญหาของแต่ละที่แตกต่างกัน
แต่หลักการที่สำคัญคือ ตำแหน่งที่ตั้งของศาลบูชาต่างๆ สุดท้ายแล้วต้องเป็นสถานที่ๆ ทุกอย่างจะต้องดูกลมกลืน สมดุลย์ กัน ทำให้เกิดความรู้สึก ลื่นไหล แก้ปัญหาจุดอับ จุดลึกลับ ของสถานที่ให้หายไป เกิดความสว่างสไว แผ่พลังไปทั่วบริเวณ
หากตั้งศาลอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่ มากเกินไป ก็จะมีปัญหาเรื่องกิ่งไม้ที่อาจจะหักมาโดนให้เสียหายชำรุดได้ หรือร่มเงาที่มีมากเกินไปทำให้มืด ไม่กระจ่างสว่างสไว และอาจจะกลายเป็นที่สิงสถิตของความลึกลับแทน แท่นที่ตั้งศาล ปัจจุบันมักจะทำเป็นโครงสร้างคอนกรีต ยกสูงพอประมาณ ที่จะแสดงความเคารพต่อเทพ หรือวิญญาณ ที่จะกราบไหว้ เคารพบูชา หรือพื้นมีระดับสูงพอที่น้ำไม่ท่วม บริเวณแท่นควรมีพื้นที่ตั้งโต้ะบูชา วัสดุปูพื้นไม่ลื่น มีความลาดเอียงที่ไม่ทำให้เกิดน้ำขังและตะไคร่น้ำ ถ้าสามารถเดินรอบศาลได้ ก็จะทำให้การดูแลรักษา ทำความสะอาดให้ศาลดูกระจ่างใสได้ง่ายขึ้น ตรงจุดที่เป็นฐานเสาและแท่นศาลให้เว้นช่องขนาดประมาณ20X20 เซนติเมตรสำหรับตอกไม้มงคล ที่มีชื่อต่างๆ เช่น มะค่า ๆลๆ และบางท่านก็ บรรจุของมีค่า แก้วแหวนเงินทอง เพชรพลอย ให้ส่งพลังเปล่งปลั่ง สว่างสไว โดยรอบศาลให้ติดตั้งไฟส่องสว่าง อาจจะเป็นไปเสาเล็กๆ รอบทิศ สี่ทิศ หรือไฟส่องรอบบริเวณให้สว่างสไว
ในกรณีที่เป็นสถานที่ขนาดใหญ่ มีความสำคัญ ต้องการให้พลังจากศาลแผ่บารมีได้กว้างไกล ผู้รู้ในการตั้งศาลบูชาที่สถิตย์ ของเทพต่างๆ อาจจะแนะนำให้ทำศาลขนาดใหญ่ หรือจำลองแท่นรองรับศาล ตามคติของเขาพระสุเมรุ ที่มีเกษียณสมุทรล้อมรอบเขาไกรลาส ที่สถิตย์ของทวยเทพ โดนการสร้างบ่อน้ำล้อมรอบแท่นศาล ที่มักปลูกบัว หรือมีน้ำพุพุ่งโดยรอบ ให้เกิดความมีชีวิตชีวา
ศาลแบบนี้ต้องการการดูแลรักษาที่สม่ำเสมอไปตลอด ปัจจุบันจึงมีผู้ทำตามคตินี้น้อยลง
ความสูงขององค์เทพ ที่สถิตย์อยู่บนพื้นศาล มักจะกำหนดให้ระดับรองพระบาทขององค์เทพอยู่ในความสูงไม่ต่ำกว่าระดับตา ของเจ้าของสถานที่ เพื่อแสดงความเคารพสูงสุด (อาจจะเป็นที่มาของคำว่าศาลเพียงตา)
นอกจากจำนวนขั้นบันไดที่ต้องเป็นเลขคี่แล้ว ความสูงของขั้นบันไดที่ขึ้นบนแท่นบูชาผู้รู้บางท่านก็อาจจะกำหนดรายละเอียดให้ลึกเฉพาะบุคคล เช่น ขั้นบันไดกว้างเท่ากับความยาวของฝ่าเท้า ความสูงขั้นเท่ากับหนึ่งคืบ เจ้าของบ้าน ๆลๆ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อาจจะหาอ่านได้จากลิ้งค์ wongnai.com ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ตายตัวและไม่สามารถใช้ได้กับทุกกรณี อย่างไรก็ตามความสำคัญของการตั้งศาลคือต้องตั้งเสร็จแล้ว บังเกิดพลังความสว่างไสว ไปทั่วบริเวณ ตั้งแล้วจิตเป็นกุศล ตั้งแล้วไม่ก่อให้เกิดปัญหากลับมา ตั้งด้วยจิตที่ดี มีศีลธรรม เชื่อมั่นว่าถ้าทำดี สิ่งที่ดี ย่อมทนทานอยู่นานตลอดไป